สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ เชียงใหม่

     สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์  เป็นโครงการในพระราชดำริ ที่มุ่งพลิกฟื้นพื้นป่าในภาคเหนือ ที่ถูกถากถางเป็นเขาหัวโล้น  โดยเปลี่ยนแปลงให้เป็นแหล่งวิจัย, รวบรวมพันธุ์พืช และผลิตไม้ดอกไม้ประดับเมืองหนาวนานาชนิด มีพืชผักสมุนไพร และไม้ผลขนาดเล็ก จัดจำหน่ายภายใต้ตราดอยคำ  เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในแถบดอยอินทนนท์ให้มีอาชีพทำกินเลี้ยงตัวเองได้  และหยุดการทำลายป่าไม้ ซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร และจะมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเป็นวงกว้าง

     ที่นี่มีร้านอาหารไว้บริการด้วยคะ อาหารที่นี่อร่อยมาก โดยเฉพาะปลาเรนโบว์
เทร้าต์  (คือปลาแซลมอนที่อยูกับนํ้าจืดแลว สวนชื่อแซลมอน จะเรียกตอนที่ยัง
อยูในทะเล) ที่นี่เลี้ยงปลาเทร้าต์ไว้ข้างน้ำตก จะจับขึ้นมาทำเป็นอาหารกันสด ๆ รสชาดจึงอร่อยเป็นพิเศษ  ถ้าไปถึงที่นี่ก็อย่าพลาดการชิมนะคะ  ยังมีผักออแกนิก (Organic) ตัดกันใหม่สด ๆ ทุกวัน

     ดอกไม้ที่นี่สวยงามมาก และมีหลากหลายพันธุ์จริง ๆ

การท่องเที่ยวในสถานีเกษตรหลวงอินทนนท์  

เป็นการท่องเที่ยวเกษตรเชิงนิเวศ  มีกิจกรรมต่าง ๆ  ที่น่าสนใจดังนี้
1. ชมแปลงพืชผักเมืองหนาว ไม้ดอก ผักไฮโดรโพนิกส์ และงานวิจัยพืชเมือง
    หนาว  พันธุ์ไม้หายาก
2. เส้นทางเดินเท้า น้ำตกสิริภูมิ
3. กิจกรรมดูผีเสื้อและนก จะมีช่วงฤดูหนาวพบนกอพยพหาดูยาก อาทิ
    นกกินปลี, นกพญาไฟ, ผีเสื้อสะพายฟ้า หางยาว, ลายเขาสูง และยังมีกิจกรรม
    สร้างงานศิลปะจากทัศนียภาพอันงดงามของดอยอินทนนท์ และบริเวณสถานีฯ
    เช่น งานภาพวาด ถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ และถ่ายภาพบุคคล
4. สวนกุหลาบพันธุ์ปี รวบรวมพืชสกุล Rhododendron เช่น อาซาเลีย (Azalia)
    และกุหลาบพันปีชนิดต่างๆ หลายชนิด เป็นพืชการค้าในต่างประเทศและ
    หลายชนิด  ได้ขยายพันธุ์มาจากต้นที่ขึ้นตามธรรมชาติ เช่น คำแดง หรือคำดอย
    (Rhododendron arboreum) ที่มีการกระจายพันธุ์อยู่ตามพื้นที่สูงของประเทศไทย
    เช่น ดอนอินทนนท์ ดอยอ่างขาง
5. บ้านพักในสถานีเกษตรหลวงดอยอินทนนท์  มีไว้บริการนักท่องเที่ยว ที่สนใจมา
    เที่ยวดอยอินทนนท์  มารับอากาศที่บริสุทธิ์ และดูวิวธรรมชาติในตอนเช้า ติดต่อ
    บ้านพักได้ที่ โครงการหลวง  053 286 770 ต่อ 14

     วันที่ไปอากาศดีมาก อากาศเย็นสบาย  แดดไม่ร้อนจัด  ไปถึงก็นั่งดื่มกาแฟสดดอยคำที่ร้อน และหอมกรุ่น  กับบรรยากาศร่มรื่น สวยงามด้วยดอกไม้นานาพรรณ สำหรับคอกาแฟ  การได้ค่อย ๆ จิบกาแฟร้อน ๆ กับชมวิวสวย ๆ ถือเป็นความสุขอย่างมากจริง ๆ
 

ป้ายชื่อสถานีเกษตรหลวงอินทนนท์

ดอกกระหล่ำประดับ (Ornamental Cabbage and Kale)

ดอกกระหล่ำประดับ อยู่ในสายพันธุ์เดียวกัน (Brassica oleracea) กะหล่ำปลี (ที่เรารับประทานกัน)และบรอกโคลี 

ดอกกระหล่ำประดับ กินไม่อร่อยเพราะจะแข็ง และมีรสขม มีสีขาว, สีชมพู, สีม่วงใบหรือสีแดง มีถิ่นกำเนิดแถบเมดิเตอร์เรเนียน  ในประเทศไทยปลูกได้ดีในที่ที่มีอากาศค่อนข้างเย็น หรือช่วงฤดูหนาว ประมาณเดือนตุลาคม-มกราคม

โรงเรือนแสดงไม้ดอกไม้ประดับ

โรงเรือนในเวลากลางวัน

โรงเรือนในยามค่ำคืน

วิวทางเดินลงจากเนินเขา

สถานีเกษตรหลวงดอยอินทนนท์  แบ่งแยกพื้นที่ออกเป็นหลายโซน

1. สวน 80 พรรษา 

    เป็นบริเวณที่มีการจัดภูมิทัศน์แสดงดอกไม้เมืองหนาวนานาพรรณ

สวน 80 พรรษา

      ต้นเมเปิ้ล (ใบสีส้ม) หรือ ก่วม มีใบเป็นรูป 3 แฉก เป็นต้นไม้ประจำชาติออสเตรเลีย  มักขึ้นอยู่ในที่อากาศหนาว สำหรับเมืองไทย ปลูกได้ตามภูเขาสูง ๆ เช่น ดอยอินทนนท์ ดอยอ่างข่าง ภูกระดึง  ปกติใบจะเป็นสีเขียว แต่จะเปลี่ยนสีเป็นสีส้ม อมแดง เริ่มจากเดือน ตุลาคม- ต้นมกราคม

     ต้นนางพญาเสือโคร่ง (ดอกสีชมพู) หรือ ซากุระเมืองไทย ปลูกได้ตามพื้นที่ภูเขาสูงในภาคเหนือ เช่น ดอยอินทนนท์  ดอยสันป่าเกี๊ยะ ดอยขุนแม่ยะ และดอยอ่างขาง จังหวัดเชียงใหม่  ดอยตุง จังหวัดเชียงราย  ออกดอกช่วงเดือน ธันวาคม ถึง ต้นกุมภาพันธ์

     ถ้าจะดูต้นไม้ 2 ชนิดนี้ ควรสอบถามจากเจ้าของสถานที่นั้น ๆ ก่อน เพราะในแต่ละปี ช่วงเวลาอาจไม่แน่นอน

ใบเมเปิ้ล

ดอกนางพญาเสือโคร่ง

กล้วยไม้ฟาเลนนอพซิส สีขาว (Phalaenopsis)

"ดอกลำโพง" หรือ "แตรนางฟ้า"
ลักษณะดอก จะคว่ำลง  มีกลิ่นหอมอ่อนๆ มีหลายสี 

เช่น ชมพู ขาว เหลือง ส้ม ม่วง

ว่านสี่ทิศ Hippeastrum (ฮิพพีสตรัม)
หรือนิยมเรียกกันว่า Amaryllis (อะมาร์รีลิส)

ขอขอบคุณคุณอุไร และพี่ต้อม ผู้พามาเที่ยวในครั้งนี้

2.  ไม้ดอก ไม้ประดับ และงานวิจัยพืชเมืองหนาว  

เช่น แอฟริกัน ไวโอเล็ต, ไอวี่, Peperomia  สีแดงม่วง , Cyclamen , Begonia, ไฮเดรนเยีย, กุหลาบพันธุ์ใหญ่ ฯลฯ  ที่จัดแสดงในโรงเรือนไม้ดอกไม้ประดับ

ไฮเดรนเยีย (Hydrangeo) เป็นสกุลของพืชมีดอก 70-75 ชนิดที่เป็นพืชพื้นเมืองในเอเชียใต้และเอเชียตะวันออก (จีน ญี่ปุ่น คาบสมุทรเกาหลี เทือกเขาหิมาลัย อินโดนีเซีย) อเมริกาเหนือ และอเมริกาใต้ ความหลากหลายส่วนใหญ่อยู่ในทวีปเอเชีย โดยเฉพาะจีน ญี่ปุ่น คาบสมุทรเกาหลี ชื่อไฮเดรนเยีย ได้มาจากความที่เป็นต้นไม้ที่ชอบน้ำมากเป็นพิเศษ. คำว่าไฮเดรนเยียมาจากภาษากรีกแปลว่าโอ่งใส่น้ำหรือท่อลำเลียงน้ำ

ดอกรักเร่ (Dahlia)  เป็นพันธุ์ไม้ดอกในสกุล Dahlia ที่มีถิ่นกำเนิดในเม็กซิโก โคลัมเบีย และทั่วไปในทวีปอเมริกากลาง ดอกมีรูปทรงและสีสันสวยงามสะดุดตา  ก้านดอกแข็งแรง นิยมปลูกเป็นไม้ตัดดอก เช่นเดียวกับกุหลาบ แต่ในประเทศไทยไม่นิยมปลูก เนื่องมาจากมีชื่อที่ไม่เป็นมงคล

ดอกตุ๊กตาเต้นระบำ (Fuchsia) ออกเสียงได้ทั้ง ฟุคเซีย และ ฟิวเซีย ส่วนชื่อภาษาไทยนั้นมีหลากหลายชื่อ ที่มักจะคุ้นหูได้ยินกันอยู่บ่อยๆ   เช่น โคมญี่ปุ่น ตุ้มหูนางฟ้า ตุ๊กตาเต้นระบำ ชื่อวิทยาศาสตร์: Fuchsia L.; ชื่อสามัญ: Fuchsia เป็นสกุลของพืชมีดอก มักเป็นไม้พุ่มหรือไม้ยืนต้นขนาดเล็ก Fuchsia triphylla, เป็นพืชชนิดแรกที่พบว่าอยู่ในสกุลนี้ ค้นพบครั้งแรกที่เกาะฮิสปานิโอลา (ปัจจุบันคือสาธารณรัฐโดมินิกันและเฮติ) เมื่อ ค.ศ. 1696–1697 โดยบาทหลวง Minim และนักพฤกษศาสตร์ชาวฝรั่งเศส Charles Plumierและตั้งชื่อสกุลนี้ตามนักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมัน Leonhart Fuchs (1501–1566)

ปักษาสวรรค์ หรือ เบิร์ดออฟพาราไดส์ (Bird of paradise) เป็นพืชดอก มีลำต้นทั้งที่เป็นลำต้นเดี่ยว และออกเป็นกอ มี 2 ลักษณะ คือ มีลำต้นใต้ดินเป็นเหง้า และชนิดที่มีลำต้นเหนือดินเห็นชัดเจน ปักษาสวรรค์มีลักษณะลำต้น ใบ และดอกคล้ายเฮลิโคเนีย แต่ไม่ได้อยู่วงศ์ เฮลิโคเนียแต่อย่างใด ปักษาสวรรค์อยู่วงศ์ Strelitziaceae ส่วนเฮลิโคเนียอยู่วงศ์ Heliconiaceae

ดอกหน้าวัว (Flamingo Flower) ส่วนช่อดอกของ หน้าวัวหรือที่เรียกว่า ปลี คือ ส่วนที่เป็นดอกจริง ประกอบด้วย ก้านช่อ มีดอกย่อยเล็กเรียงอัดแน่นอยู่บนปลี ดอกย่อยนี้เป็นดอกสมบูรณ์เพศ ที่มีทั้งเกสรตัวผู้และเกสรตัวเมีย อยู่ในดอกเดียวกัน ดอกที่อยู่บนก้านดอกนี้จะมีสีต่างๆหลายสี ดอกหน้าวัว มีความหมายว่า  “หญิงสาวผู้เหงาเศร้า แต่หยิ่งและทรนงค์ในศักดิ์ศรีของตัวเอง” แต่ถ้าจะให้เป็นดอกไม้แทนความรักแล้วละก็มีความหมายที่ดีไม่แพ้ใครเลย  ความหมายนั่นก็คือ “ความรักที่มั่นคงและอดทน”

ดอกคาลล่า ลิลลี่ (Calla Lily) เป็นไม้ดอกประเภทหัว  มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Zantedeschia spp. อยู่ในวงศ์ (Family) Araceae มีถิ่นกำเนิดในอัฟริกาใต้มีหลากหลายสายพันธุ์   เป็นดอกไม้สำหรับการเฉลิม ฉลองมาตั้งแต่ยุคโรมัน   ถูกยกย่องว่าเป็นดอกไม้แห่งความสว่างไสว   ดอกคาร่าลิลลี่ ช่วยสร้างความรู้สึกหรูหรา สง่างามให้แก่บ้านของคุณ  และยังเป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงความบริสุทธิ์  ความสง่างาม  เพราะเป็นดอกไม้ที่แย้มบานอย่างช้าๆ  และยังมีสีสันให้เลือกใช้ได้มากมาย  ดอกคาร่าลิลลี่นั้น  เป็นดอกไม้ที่สวยงามคงทนและยังเหมาะอย่างยิ่งที่จะใช้ในงานแต่งงาน  การแสดงความเอื้ออาทร  หรืออย่างน้อยสำหรับประดับตกแต่งบ้านให้รู้สึก รื่นรมณ์

อะกาแพนธัส (Agapanthus) เป็นไม้หัวมาจากแอฟริกาใต้ ชื่อเรียกทั่วไปเค้าคือ ลิลลี่แห่งแม่น้ำไนล์ Lily of the Nile ไม้ในสกุล Agapanthus มีอยู่ประมาณสิบชนิด มีตั้งแต่สีฟ้าไปจนขาว ดอกก็มีหลายขนาด ที่เห็นขายกันในบ้านเราจะเป็นแบบพันธุ์แคระดอกเล็กเสียส่วนใหญ่

กล้วยไม้สกุลฟาแลนอปซีส (Phalaenopsis)  มีแหล่งกำเนิดตามธรรมชาติ  อยู่ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก เช่น ประเทศฟิลิปปินส์ บอร์เนียว ชวา สุมาตรา มาเลเซีย  สำหรับประเทศไทยมีกล้วยไม้สกุลนี้อยู่ 2-3 ชนิด เช่น เขากวาง กาตาฉ่อ ขนาดของดอกมีใหญ่และเล็กตามลักษณะของพันธุ์ แต่ที่นิยมปลูกกันอยู่ในขณะนี้เป็นพันธุ์ลูกผสม ที่มีการปรับปรุงพันธุ์และผสมกันมาหลายทอด จนดอกกลมใหญ่ ลักษณะของลำต้นทรงเตี้ยตรง การเจริญเติบโตเป็นแบบโมโนโพเดี้ยล ใบอวบน้ำ ค่อนข้างหนาแผ่แบนรูปคล้ายใบพาย ดอกกลมใหญ่ ขนาดกว้างประมาณ 5-8 ซม. กลีบหนา ดอกมีหลายสี เช่น สีขาว สีชมพู สีเหลือง

กล้วยไม้รองเท้านารี (Paphiopedilum) เป็นกล้วยไม้ในสกุล Paphiopedilum มีชื่อเรียกอีกหลายชื่อ เช่น รองเท้านาง รองเท้าแตะนารี หรือ บุหงากะสุต ในภาษามาเลเซีย หมายถึงรองเท้าของสตรี กลีบดอก หรือที่เรียกว่า “กระเป๋า” มีรูปร่างคล้ายกับรองเท้าของสตรี  และรองเท้าไม้ของชาวเนเธอแลนด์ กระเป๋าของรองเท้านารีมีรูปร่างลักษณะและสีสันแตกต่างกันไปตามชนิดพันธุ์ กล้วยไม้รองเท้านารี มีแหล่งกำเนิดอยู่ในเขตอบอุ่น และเขตร้อนแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งแต่อินเดีย ฟิลิปปินส์ พม่า มาเลเซีย และในประเทศไทย  พบกล้วยไม้รองเท้านารีขึ้นอยู่ในป่าทั่วๆ ไป บางชนิดเกาะอาศัยอยู่ตามต้นไม้ แต่ส่วนใหญ่แล้วจะชอบขึ้นตามพื้นดินหรือซอกหิน  ที่มีต้นไม้ใบหญ้าเน่าตายทับถมกัน เจริญงอกงามได้ดีในที่โปร่ง ไม่ชอบที่รกทึบ แสงแดดส่องถึง โดยธรรมชาติของกล้วยไม้สกุลรองเท้านารีทุกชนิด เมื่อออกดอกแล้วก็จะตายไป แต่ก่อนตายจะแตกหน่อทดแทน ซึ่งหน่อนี้ก็จะเจริญงอกงามเป็นต้นใหม่ต่อไป

รองเท้านารีอินทนนท์ Paphiopedilum villosum

กุหลาบพันธุ์ใหญ่ (Rose) กุหลาบดอกใหญ่มาก ใหญ่เกือบเท่าใบหน้าคน  เป็นที่มาของบทละครพูดคำฉันท์ 5 องค์ ชื่อ มัธนะพาธา โดยพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระราชนิพนธ์ขึ้นทั้งหมดด้วยพระองค์เองโดยไม่ได้อิงเนื้อหามาจากที่อื่น ทรงพระราชนิพนธ์ทั้งเริ่มและจบลงในปี พ.ศ. 2466 เล่าเรื่องว่าด้วยตำนานเกี่ยวกับดอกกุหลาบ และความเจ็บปวดจากความรัก กุหลาบดอกใหญ่ หรือ กุหลาบก้านยาว (large flowered or long stemmed roses) กุหลาบประเภทนี้เป็นกุหลาบไฮบริดที (Hybrid Tea: HT) ที่มีดอกใหญ่ แต่การดูแลรักษายาก ผลผลิตต่ำ (100-150 ดอก/ตร.ม./ปี) และอายุการปักแจกันสั้นกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับกุหลาบ Floribunda มักมีก้านยาวระหว่าง 50-120 เซนติเมตร กุหลาบดอกใหญ่ได้รับความนิยมมากใน สหรัฐอเมริกา โคลัมเบีย เอกวาดอร์ เม็กซิโก ญี่ปุ่น ซิมบับเว โมร๊อกโก ฝรั่งเศส และ อิตาลี พันธุ์กุหลาบดอกใหญ่ที่เป็นที่นิยมในตลาดต่างประเทศได้แก่ พันธุ์ เวก้า (Vega: แดง) , มาดาม เดลบา (Madam Delbard) , วีซ่า (Visa: แดง) , โรเท โรเซ (Rote Rose: แดง) , คารล์ เรด (Carl Red: แดง) , โซเนีย (Sonia: ชมพูส้ม) , เฟิร์สเรด (First Red: แดง) , โพรฟิตา (Prophyta: ปูนแห้ง) , บิอังกา (Bianca: ขาว) , โนเบลส (Noblesse: ชมพูส้ม) และ แกรนด์ กาลา (Grand Gala: แดง) เป็นต้น คำว่า "กุหลาบ" เป็นคำศัพท์มาจากภาษาฮินดี (गुलाब อ่านว่า กุ-ลาพ หรือคนไทยเราเรียกว่า คุ-ลาพ แล้วตอนหลังก็เป็นกุหลาบ) ในภาษาเปอร์เซีย แปลว่าสีแดง

อันนี้ไม่ทราบชื่อ  ถ้ามีผู้ทราบชื่อ ช่วยแจ้งด้วยคะ
Begonia

3.  ผลไม้ เช่น มัลเบอรี่, องุ่น, ลูกพีช, สตรอว์เบอร์รี่, ลูกพลับ (Persimmon),

     Cyclamen , Begonia, กีวี, อะโวคาโด , Plum ฯลฯ

ลูกหม่อน หรือ มัลเบอรี่  (Mulberry)	องุ่นไร้เมล็ด (Seedless grape)
พีช (Peach)	สตรอว์เบอร์รี่ (Strawberry)

4.  ไร่กาแฟ เช่นที่ กาแฟ อาราบิก้า , ลินซีด

5.  ผัก เช่น พริกหวาน, มะเขือเทศ ฯลฯ

6. เฟิร์น  

    ที่นี่ปลูกเฟิร์นหลายสายพันธุ์  มีโรงเรือนจัดแสดงเฟิร์น และโรงเรือนเพาะชำ

    เฟิร์น เป็นพืชที่ต้องการน้ำมาก ชอบอยู่ใต้ร่มเงาของไม้ใหญ่ เราเรียกป่าชนิด
    นี้ว่าป่าดิบเขา เพราะจะมีฝนตกตลอดปี ที่ดอยอินทนนท์จึงเหมาะที่จะเป็น
    แหล่งศึกษาเกี่ยวกับเฟิร์นมาก เพราะมีอากาศหนาวเย็นและชื้นตลอดปี

เฟิร์น

กิจกรรมการท่องเที่ยวที่น่าสนใจ 

ในช่วงเดือนต่างๆ พืชผักผลไม้หลากชนิดบนสถานีเกษตรฯ จะให้ผลผลิตแตกต่างกัน ใครสนใจอยากชิมพืชผักชนิดไหนก็มาได้ตามช่วงเดือนนั้นๆ ดังนี้
     

ช่วงเวลา	อาหาร	แหล่งท่องที่ยว
1. ตุลาคม-          มกราคม	สตรอเบอร์รี่, ราสพ์เบอร์รี่, เคพกูสเบอร์รี่, อะโวกาโด, กาแฟอราบิก้า, ผักสลัด ปลาเรนโบว์เทราต์	สวน 80 พรรษา, น้ำตกสิริภูมิ, สวนหลวงสิริภูมิ, สวนกุหลาบพันปี, ชมดอกนางพญาเสือโคร่ง, กล้วยไม้รองเท้านารี, ประเพณีปีใหม่
2. กุมภาพันธ์-     พฤษภาคม	เซเลอรี่,  พีช, เนคทารีน,  พลัม, มัลเบอรี่, องุ่นไร้เมล็ด, ปลาสเตอร์เจี้ยน	โรงเรือนรวบรวมและจัดแสดงพืชกินสัตว์, ชมดอกไฮเดรนเยีย, บีโกเนีย, งานหัตถกรรมผ้าทอ
3. มิถุนายน-     กันยายน	กีวีฟรุ้ท, หน่อไม้ฝรั่ง, พลับ กุ้งก้ามแดง	โรงเรือนแสดงพรรณไม้, โรงเรือนรวบรวมและจัดแสดงเฟิร์น, นาข้าวขั้นบันได

       สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์เป็นอีกหนึ่งสถานที่  ที่มีความสมบูรณ์แบบทั้งในเรื่องสถานที่ท่องเที่ยว   ความสวยงามของธรรมชาติ อากาศที่บริสุทธิ์ และเป็นเสมือน “ศูนย์การเรียนรู้เพื่อการเกษตรบนพื้นที่สูง” สำหรับผู้ที่สนใจหรือผู้ที่ต้องการศึกษาพืชพรรณต่างๆ อีกด้วย

แผนที่แสดงอาณาเขต สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์

แผนที่การเดินทางมา สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์

กลับไปด้านบน

ที่มาของข้อมูล:

1.  สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ The Royal Agricultural Station Inthanon
2.  กล้วยไม้สกุลรองเท้านารี
3. ชิมสารพัดผักผลไม้-เที่ยวได้ตลอดปี ที่ “สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์”





goodness updated 20/12/2014